ภาพแห่งความทรงจำ

ปกิณกะ : ภาพแห่งความทรงจำ

ในชีวิตของคนเรา ล้วนมีจุดประสงค์ ความมุ่งหมายในการศึกษา หาความรู้ มุ่งหวังในการประกอบอาชีพ มุ่งหวังในทรัพย์สินเงินทอง มุ่งหวังในคู่ครอง มุ่งหวังในการหาความสุข เฒ่าพเนจรทำงานทำงานหนักมาแต่เด็ก หาสตังค์ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ หวังร่ำหวังรวย หวังเอาชนะผู้อื่น อยากมีนั่นอย่ากมีนี่ พอมีเข้สจริง ก็ไม่เห็ฯมันจะมีความสุขเลย ความสุขจริงๆ มันอยู่ที่ไหน ยังแสวงหาอยู่ แน่นอน น่าจะไม่ใช้ความมั่งคั่ง น่าจะไม่ใช่ความสะดวกสบาย แต่สิ่งที่น่าจะเป็นคือความสงบ ความห่วงหาอาทร ซึ่งกันและกัน ของเพื่อนมนุษย์ การได้เห็น เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน มีความสุข การให้ในสิ่งที่เกินความจำเป็ฯ ของตัวเอง แก่ผู้อื่น ที่จำเป็นกว่า ใช่หรือไม่ เฒ่าพเนจจรยังคงตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ แต่อยากจะเล่าภาพของความประทับใจที่ได้พบ เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ความประทับใจที่ตราตรึง ความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นแล้วยากที่จะหายไป จากจิตสำนึก เช่นภาพต่อไปนี้

น่าจะเรียกว่า พระให้พร จะมีเด็กซักกี่คน ที่มีวาสนา อย่างพ่อหนูคนนี้ พระลอยเรือรับบาตร พร้อมให้พรเจ้าตัวน้อย

ภาพความสุขของสองพี่น้อง ขึ้นลิฟท์แทนการเดินขึ้นสะพาน บรรยากาศบ้านน้อก บ้านนอก แต่มีลิฟท์

คุณยายใส่บาตร

ถือไม้เท้ายอดทอง


คู่ทุกข์คู่ยาก

คุณยายก็มาเที่ยว

ท้องนาก้มี สะพานก็มี วัดมีลิฟท์ก็มี


มาด้วยกัน 3 รุ่น

บ่ายคล้อย ชมการแสดง

ป้อนลูก

คู่แท้

ลูกสาวป้อนพ่อ

คู่ทุกข์คู่ยาก

คู่ทุกข์คู่ยาก

เฒ่าพเนจร ใช้ชีวิตร่อนแร่ ไปร่อนแร่ ไปทั่วโลก ฝ่าความทุกข์ยาก ความสุข ความสมหวัง จวบจนวันนี้ อายุเลยวัยทำงาน ทุกเช้าวันเสาร์อาทิตย์ เห็นภาพผู้คน ตักบาตรพระทางน้ำ ชีวิตผู้คนมากหน้าหลายตา หลากวัย โดยเฉพาะผุ้ที่ เลยวัยทำงาน วัยชรา มีครอบครัวที่อบอุ่น สามีและภรรยา คู่ทุกข์คู่ยาก นั่งคู่กัน ป้อนอาหารให้แก่กัน แม้กระทั่งเข็นรถให้แก่กัน ลู หรือ หลาน ดูแลผู้ชรา ซึ่งคาดว่า ท่านเหล่านั้น คงกรำงานหนักมาทั้งชีวิต ด้วยความห่วงหาอาทร ทำด้วยจิตบริสุทธิ์ บางครั้ง คิดว่าหาไม่ได้อีกแล้วในสังคมไทย ก็ได้พบ นี่เป็นตัวอย่างภาพบางส่วน บางตอนเท่านั้น เฒ่าพเนจรไม่เคยคิดเลยว่า จะเกิภาพเหล่านี้ เมื่อแรกได้คิดหวังแต่เพียงว่า ทำตลาดน้ำ เป็นเพียงกุศโลบายนำคนเข้าวัด เพียงเท่านั้น แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ กลับเป็นภาพครอบครัว มาพักผ่อนด้วยกัน แม้ไม่จับจ่ายซื้องของ ก็ดูยิ้มแย้มมีความสุข โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เฒ่าพเนจร ไม่เคยรู้สึก อิ่มเอิบใจ อย่างนี้มาก่อน มันปลื้มปิติ แต่ก็อดสะท้อนใจไม่ได้ เพราะเฒ่าพเนจรกำำร้าทังพ่อและแม่ ลูกเต้าก็ไม่มี หากชราลงกว่านี้ใครจะดูแล (ก็คิดแบบคนเห็นแก่ตัว) เห็นท่านเหล่านนั้น มีญาติ มีมิตร ชี้ชวนกันชม ชี้ชวนกันเที่ยว สวนเสเฮฮา อดสะท้อนถึงตัวเองไม่ได้ บุญวาสนาคงมีอยู่แค่นี้