พรานบรูพ์

ประวัติบุคคล : พรานบูรพ์

 พรานบูรพ์

จากวิกีพีเดีย สารานุกรมเสรี

 พรานบูรพ์ หรือ จวงจันทร์ จันทร์คณา (29 มีนาคม พ.ศ. 2444-6 มกราคม พ.ศ. 2519) นักแต่งเพลงไทยเป็นคนแรกผู้ปฏิรูปแบบเพลงไทย จากท่วงทำนองเพลงไทยเดิมที่มีลูกเอื้อนให้มีลักษณะสากลยิ่งขึ้น อาจกล่าวว่า พรานบูรพ์คือผู้ริเริ่มเพลงไทยสากลก็ได้ มีผลงานสร้างชื่อเสียงคือ ละครร้องเรื่อง "จันทร์เจ้าขา" และ โรสิตา"

ประวัติ

นายจวงจันทน์ จันทร์คณา เป็นบุตรของหลวงราชสมบัติ (จันทน์) นายอำเภอเมือง และนางสร้อย เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2444 ที่ อ.เมือง จังหวัดเพชรบุรีมีน้องสาวร่วมบิดา มารดา 1 คน คือ นางสังวาลย์ มณีปันตี (ถึงแก่กรรม) เนื่องจากบิดาเป็นข้าราชการ ซึ่งต้องโยกย้ายไปรับราชการตามต่างจังหวัดต่าง ๆ เมื่อเติบวัยที่จะเข้าศึกษาได้ไม่นานบิดาก็ถึงแก่กรรม ขณะนั้นมีอายุได้ 7 ปี มารดาได้พากลับบ้านเดิมที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เรียนหนังสือต่อจนอายุได้ 11 ปี จึงได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนสวนกกุหลาบวิทยาลัย ระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบนั้น นอกจากจะได้รับเลือกเข้าเล่นฟุตบอลในทีมโรงเรียนแล้ว ยังสามารถเล่นยูโด และไวโอลินดีอีกด้วย

เมื่อจบชั้น ม.8 จากโรงเรียนสวนกุหลาบ ฯ ได้เข้าศึกษาต่อที่ [คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย] โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นนายอำเภอ แต่อาจารย์ให้ความเห็นว่าตัวเล็กจะเป็นนายอำเภอคงไม่เหมาะ จึงย้ายคณะไปเียนวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อเรียนถึงปี 2  มารดาถึงแก่กรรม และไม่มีทุนเรียนต่อ จึงออกจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เมื่อออกจากมหาวิทยาลัยระยะนี้เป็นระยะที่คณะและละครราตรีพัฒนาเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา จึงได้เริ่มชีวิตละครด้วยการบอกบทละครอยู่หลังฉาก ขณะเดียวกันก็เขียนบทกวีในนาม "อำแดงขำ" เรื่องอ่านเล่นในนามปากกา "รักร้อย" และเริ่มแต่งบทละครเรื่อง "ทะแกล้วทหารสามเกลอ" ขึ้นเป็นเรื่องแรก ก็ได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างดี จนได้เป็นผู้แต่งบทละครเอง กำกับการแสดงเอง และได้ใช้นามปากกา "พรานบูรพ์" เป็นครั้งแรก เมือเขียนเรื่อง "เหยี่ยวทะเล"

คณะละครจันทโรภาส

พรานบูรพ์ได้ดัดแปลงเพลงไทยเดิมที่มีลูกคู่ร้องรับ มาสู่แบบสากล โดยที่ทำนองเพลงที่ใช้กับบทละครร้องยุดนั้น มีลูกคู่ยืดยาดเกินควร จึงใส่เนื้อร้องเต็มหรือตัดให้กระชับแทนลูกคู่ใช้ดนตรีคลอ โดยใช้เครื่องดนตรีฝรั่งบรรเลงแทนเครื่องพิณพาทย์ลาดตะโพนฉับแกระ เป็นที่นิยมกันมากเมื่อคณะละครราตรีพัฒนาระงับการแสดงเพราะเจ้าของมีภาระกิจทางด้านโรงภาพายนตร์เพิ่มขึ้น พรานบูรพ์จึงได้เข้าทำงาน น.ส.พ. โดยประจำอยู่กองบรรณาธิการเดลิเล์รายวัน และเขียนเรื่องสั้นเรื่องยาว และบกพากย์การ์ตูนใน น.ส.พ.เดลิเมล์วันจันทร์ ต่อมาได้จัดตั้งคณะละครชื่อ "ศรีโอภาส" ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น "จันทรโรภาส" ละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือเรื่อง "จันทร์เจ้าขา" ซึ่งต่อมาได้ถ่ายทำเป็นภาพยนตร์ เมื่อ พ.ศ.2499 แสดงนำโยเจือ จักษุรักษ์, สายสนม นางงามเพชรบุรี, น้อย จันทร์คณา

พรานบูรพ์ เป้นผู้ริเริ่มทำบทพากย์ภาพยนต์การพากย์ในยุดแรกเป็นการเล่าเรื่องหน้าจอให้คนฟังก่อนหนังฉาย ต่อมาเป็นการพากย์แบบโขน ให้แก่หนังเรื่องรามเกียรติ์ หนังอินเดีย และต่อมาก็เป็นการพากย์แบบปัจจุบัน มีดนตรีประกอบ ภาพยนตร์เรื่องแรกที่พากย์แบบปัจจุบัน คือเรื่อง "อาบูหะซัน" มีทิดเขียว (สิน สีบุญเรือง) เป็นผู้พากย์

จวงจันทน์ จันทร์คณา สมรสกับนางศรี จันทร์คณา มีบุตรและธิดา ดังนี้ นายจารุ จันทร์คณา (ถึงแก่กรรม) นางสาววจุไร จันทร์คณา (ถึงแก่กรรม)นางสาวจามรี จันทร์คณา และนางสาวจริยา จันทร์คณา และมีบุตรชายคือ จงรัก จันทร์คณาที่เกิดจากนางเทียมน้อย เนาวโชติ

 พรานบูรพ์ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2519 อายุได้ 74 ปี พิพิธภัณฑ์หุ่นขึ้นผึ้งไทย จังหวัดนครปฐม ได้ปั้นหุ่นของพรานบูรพ์จัดแสดงไว้เพื่อเป็นเกียรติ